#ทศกรณีย์นวกษัตริย์
บทที่ ๖ "ปกป้องคุ้มภัยโควิด-๑๙"
19 กรกฎาคม 2564
396
ครั้ง
ปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า๒๐๑๙ หรือโรคโควิด-๑๙ ไปทั่วโลก ซึ่งเป็นไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒ โดยพบครั้งแรก ณ เมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๓ และประกาศให้เป็นโรคระบาดทั่วโลกในวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๓
ประเทศไทยมีรายงานว่าพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการแพร่เชื้อในประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ และมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก นับเป็นโรคระบาดร้ายแรงในรอบ ๓๐๐ ปี ที่คร่าชีวิตผู้คนหลักล้านคนทั่วโลก มนุษยชาติไม่ได้เพิ่งเผชิญกับโรคระบาดที่ลุกลามเกินกว่าที่จะคาดไว้หรือ pandamic ที่สร้างความเจ็บปวด การสูญเสียมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ด้วยสติปัญญา และความแข็งแรงก็ทำให้มนุษยชาติสามารถก้าวผ่านและกลับมายืนได้ด้วยความแข็งแรงทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกาฬโรค อหิวาตกโรค ไข้หวัดใหญ่ หรือเอชไอวี ที่เคยอุบัติมาแล้วทั้งสิ้น
กาฬโรค(Plaque) มีการแพร่ระบาดในปีพ.ศ.๒๒๖๓ เป็นการแพร่ระบาดจากจากสัตว์สู่คนโดยมีหมัดหนูเป็นพาหะ ที่ติดมากับตัวหนูที่อยู่ใต้ท้องเรือสำเภาซึ่งเดินทางไปติดต่อค้าขายในดินแดนต่างๆ
อีก ๑๐๐ ปีถัดมาหรือในปี พ.ศ.๒๓๖๓ อหิวาตกโรค (Cholera) หรือโรคห่า เกิดการแพร่ระบาดจากประเทศอินเดีย เข้ามาทางไทยผ่านทางปีนัง ได้คร่าชีวิตคนไทยไปหลายหมื่นคนและทั่วโลกไปเป็นแสนคน
ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish flu) ได้ระบาดรุนแรงไปทั่วโลกในช่วงปีพ.ศ.๒๔๖๑ - ๒๔๖๓ เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ทำให้มีผู้ติดเชื้อราว ๑ใน ๓ ของประชากรโลกในยุคนั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปราว ๒๐ - ๕๐ ล้านคน
ต่อมาช่วงปี พ.ศ.๒๔๙๙ - ๒๕๐๑ ได้เกิดการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่เอเชีย (Asian Flu) ที่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H2N2 ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศจีนและแพร่ระบาดไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปราว ๒ - ๔ ล้านคน
ปี พ.ศ.๒๕๑๑ ได้เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง(Hong Kong Flu) ที่เกิดจากเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์H3N2 ซึ่งเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์จากไข้หวัดใหญ่เอเซียที่ระบาดก่อนหน้าราว ๑๐ ปี ได้คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมากกว่า ๑ ล้านคน
โรค HIV หรือ AIDS เกิดการระบาดสูงสุดในช่วงปี พ.ศ.๒๕๔๘ - ๒๕๕๕ ซึ่งถูกพบครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๑๙ ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และมีการระบาดไปทั่วโลกได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า ๓๖ ล้านคน
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) 2009 เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่กลุ่ม A (H1N1) ที่มีรายงานพบเชื้อในคนครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๒ เริ่มแพร่ระบาดในเม็กซิโก และสหรัฐ ก่อนจะแพร่ระบาดไปหลายประเทศทั่วโลก เชื้อสายพันธุ์นี้มีองค์ประกอบพันธุกรรมที่เป็นผลรวมจากไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ ไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และไข้หวัดหมูที่พบในทวีปเอเชีย และยุโรป ทำให้มีการคร่าชีวิตผู้คนไปกว่าสองแสนคน
ณ ปัจจุบัน ปี พ.ศ.๒๕๖๔ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ ยังคงรุนแรงไปทั่วโลก ความหวังของมวลมนุษยชาติที่จะเอาชนะโคโรน่า ไวรัสที่ก่อโรคโควิด-๑๙ ครั้งนี้คงหนีไม่พ้นการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ทั่วประเทศ และทั่วโลก ปัจจุบันวัคซีนสำหรับโควิด-๑๙ มีหลากหลายชนิดและยี่ห้อ ดังนี้
๑.วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม ได้แก่ เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) วัคซีนกลุ่มนี้ ใช้เทคโนโลยีใหม่สังเคราะห์สารพันธุกรรมเอ็มอาร์เอ็นเอ(messenger RNA: mRNA) ที่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อไวรัส วัคซีนจะทำหน้าที่พา mRNA เข้าเซลล์ และกํากับให้เซลล์ผลิตสารโปรตีนสไปค์ของเชื้อไวรัส ซึ่งโปรตีนนี้จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้านเชื้อ วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ วัคซีนของบริษัท Pfizer และ Moderna
๒.วัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Recombinant viral vector vaccine) วัคซีนกลุ่มนี้ใช้ไวรัสที่สามารถตัดแต่งพันธุกรรม เช่น ไวรัสอะดีโน (Adenovirus)โดยนำมาดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่สามารถแบ่งตัวได้ และใส่สารพันธุกรรมของไวรัสโรคโควิด19 ติดไปด้วย เมื่อนํามาฉีดไวรัสพาหะเหล่านี้จะเลียนแบบการติดเชื้อตามธรรมชาติ โดยกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งระบบให้สร้างแอนติบอดีต่อไวรัสโรคโควิด19 ตามสารพันธุกรรมที่ใส่เข้าไป ได้แก่ วัคซีนของบริษัท Astra Zeneca, CanSinoBio, Johnson and Johnson และ Gamaleya
๓.วัคซีนที่ทําจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (Protein subunit vaccine) ผลิตโดยการสร้างโปรตีนของเชื้อไวรัส ด้วยระบบ cell culture, yeast, baculovirus เป็นต้น แล้วนํามาผสมกับสารกระตุ้นภูมิ เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อต้านโปรตีนสไปค์ของไวรัสโรคโควิด19 วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบันคือ วัคซีนแบรนด์ Novavax
๔.วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine) วัคซีนกลุ่มนี้ผลิตโดยนําไวรัสโรคโควิด19 มาเลี้ยงขยายจํานวนมาก และนํามาทำให้เเชื้อตาย การฉีดวัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสทุกส่วน เสมือนได้รับเชื้อไวรัสโดยตรงแต่ไม่ทำให้เกิดโรค เพราะเชื้อตายแล้วได้แก่ วัคซีนของบริษัท Sinovac และ Sinopharm
ภายใต้ร่มพระบารมีราชวงศ์จักรีของปวงชนชาวไทย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่ก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ "Astra Zeneca" ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนกันอย่างเพียงพอ และจะกระจายไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศ์ ทรงพระราชทานอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์มากมาย อาทิ รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ห้องตรวจหาเชื้อ (Modura Swab Unit) เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หน้ากากอนามัย หมวกเฟซชิลล์(Face Shield) ชุดป้องกันการติดเชื้อโรค(PPE) ฯลฯ ตลอดจนทรงประกอบอาหารพระราชทานแก่บุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรคโควิด-๑๙ ณ โรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลต่างๆ
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งเกี่ยวกับแนวทางในการรับมือสถานการณ์ในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ความว่า
“มอบ เรียกว่ามอบเสริมให้ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อจะดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนในครั้งนี้ ซึ่งมีคนถวายรถต้นแบบมา ก็ได้รับการปรับปรุงทดสอบ แล้วก็ดูความเหมาะสม หลังจากปรับปรุงทดสอบแล้วก็ทราบว่า มีความเหมาะสมและเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะใช้ ที่จะช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา จึงได้จัดรถเพิ่มเติมให้ ก็รู้สึกยินดีและภูมิใจที่มีส่วนร่วมกับการแก้ปัญหาให้กับหน่วยงานของท่าน เครื่องมือที่ใช้ต่างๆ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ แต่หลักๆ ก็มาจากคน อะไรที่สำคัญในคนก็คือทัศนคติที่ดี เข้าใจปัญหา มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด เมื่อมีเครื่องมือเครื่องใช้มาสนับสนุน ก็ใช้เครื่องมือเครื่องใช้ให้ถูกจุด ใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อที่จะเสริมในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป”
จากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-๑๙ นั้นได้สร้างอุปสรรคให้กับบุคลากรกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงต่างๆ ทว่าบุคลากรภายใต้หน่วยใดติดเชื้อโรคดังกล่าว ย่อมทำให้หน่วยนั้นๆ ต้องปิดลง อย่างไรก็ตามกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ยิ่งไปกว่านั้นบุคลากรกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้รับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยและวัคซีนที่ได้รับกันเป็นส่วนใหญ่คือวัคซีน Astra Zeneca ที่ผลิตจากบริษัทบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แก่บุคลากรกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่มีพระราชาเปี่ยมพร้อมไปด้วยพระเมตตาที่จะช่วยให้ปวงชนชาวไทยผ่านวิกฤติการแพร่ระบาดโรคโควิด-๑๙ ไปด้วยกัน
เขียนโดย"ฟ้าโปรย"
#เข้าใจเห็นใจร่วมใจก้าวผ่านวิกฤติ