เปลี่ยนการแสดงผล
อาชีพที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝัน
3 สิงหาคม 2564 392 ครั้ง

กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่ง ความคิดของคนก็เช่นกัน เปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะปัจจัยต่างๆที่อยู่รอบตัว 

เมี่อตอนที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กนั้นนึกอยากเป็นทหาร (ข้าพเจ้าเกิด พ.ศ.๒๔๙๙ ในเขตกองทัพอากาศดอนเมือง) ยุคนั้นหลังรัฐประหารไม่นาน ไปทางไหนก็มีแต่คนเกรงใจทหาร ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าโตขึ้นและได้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนต่างๆ (ร.ร.วัดดอนเมือง, ร.ร.บางบัว,ร.ร.ดอนเมือง) พบว่าวิชาความรู้ต่างๆนั้นแม้จะมีพื้นฐานหลักการเดียวกัน แต่ครูแต่ละคนก็มีวิธีการถ่ายทอดที่แตกต่างกันไป (ประยุกต์) ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งท้าทายจึงนึกอยากเป็นครู เมื่อเวลาใกล้จบการศึกษาชั้น ม.ศ.๓ (ร.ร.ดอนเมือง) ข้าพเจ้าได้เตรียมตัวที่จะเข้าทำการศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูพระนคร (บางเขน) แต่มีอุปสรรค คือ บิดา, มารดา ไม่มีเงินส่งเรียน จึงต้องเข้ารับการศึกษาที่ ร.ร.จ่าอากาศ (หลักสูตร ๒ ปี) อย่างไม่เต็มใจนัก จำได้ว่าวันมอบตัวเข้าเรียนนั้น บิดา, มารดา ต้องกู้เงินเขามาจ่ายค่าใช้สอยขณะเรียนเป็นเงิน ๑,๒๐๐ บาท (หนึ่งพันสองร้อยบาท) หลังจบการศึกษาอย่างใจไม่รักแล้ว ได้รับราชการอยู่หลายหน่วยงานดังนี้ 
กรมสื่อสารทหารอากาศ (ดอนเมือง) ตำแหน่งช่างซ่อมวิทยุภาคอากาศเป็นเวลา ๘ ปี (พ.ศ.๒๕๑๗-พ.ศ.๒๕๒๕) 
กองบิน ๖ ฝูงบิน ๖๐๕ (ดอนเมือง) ตำแหน่งช่างวิทยุภาคอากาศ เป็นเวลา ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๒๕-พ.ศ.๒๕๓๐) เป็นฝูงบินลำเลียง 
ต่อมาได้ย้ายไปกองบิน ๒๑ ฝูงบิน ๒๑๑ (อุบลราชธานี) ตำแหน่งช่างวิทยุภาคอากาศ จนเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด (พ.ศ.๒๕๓๐-พ.ศ.๒๕๕๗) ที่นี่เป็นฝูงบินรบ (ชักเริ่มท้าทายขึ้น ก่อนหน้านี้เคยทำแต่งานประจำไม่ตื่นเต้น) เครื่องบินแบบแรก คือ A-37 เป็นเครื่องบินโจมตี หลังจากปลดประจำการไปก็ได้รับเครื่องบินแบบ F-5 E/F เป็นเครื่องบินโจมตีสกัดกั้น ต้องไปอบรมการปฏิบัติงานที่กองบิน ๔ (ตาคลี) ก่อนเป็นเวลา ๒ เดือน ต่อมาเครื่องบินก็ได้รับการปรับปรุงพัฒนาขึ้นมาตามลำดับ บุคลากรแต่ละคนก็ต้องปรับตัวและพัฒนาตามไปด้วย หากใครไม่ปรับตัวหรือพัฒนาก็ต้องเป็นคนตกยุคไป ในระหว่างนี้ได้รับความเมตตาจากผู้บังคับบัญชาให้ไปเข้ารับการอบรมหลักสูตรเจ้าหน้าที่บำบัดผู้ติดยาเสพติดที่กรมแพทย์ทหารอากาศ(ดอนเมือง) หลังผ่านการอบรมแล้วได้ปฏิบัติงานที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกองบิน ๒๑ อีกหน้าที่หนึ่ง (ประมาณ ๕ ปี) ได้เป็นครูสมใจ (แม้จะเป็นครูของผู้เสพยาเสพติดก็ตาม) ระหว่างนี้ได้พบเห็นหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงมาตั้งที่กองบิน ๒๑ เป็นระยะ คิดอยู่ในใจว่านี่เป็นหน่วยงานอีกหน่วยงานหนึ่งที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝันแต่ฝันนั้นไม่น่าที่จะเป็นจริงได้ด้วยหลายปัจจัย ต่อมาจนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๕๗ ด้วยเหตุหลายประการทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดและย้ายครอบครัวมาอยู่ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ยุติการทำงานที่ท้าทายแม้ใจยังโหยหา ใช้ชีวิตเป็นตาเลี้ยงหลานไปวันๆ เหมือนสวรรค์บันดาล ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๕๙ ข้าพเจ้าได้ผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในตำแหน่งช่างวิทยุการบิน (พรก.) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์การบิน กองบริหารการบินเกษตร ปฏิบัติงานที่ จ.นครสวรรค์ ความรู้สึกอัดอั้นที่เก็บสะสมไว้ตั้งแต่เกษียนจากกองทัพอากาศได้ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นระยะๆ และข้าพเจ้าเชื่อว่าที่แห่งนี้ คือ สถานที่ๆ ข้าพเจ้าโหยหามาตลอดชีวิต ข้าพเจ้าได้ใช้ความพยายามทั้งศาสตร์และศิลป์ที่มีสะสมมาตลอดชีวิตอย่างเต็มความสามารถ ความฝันของข้าพเจ้าที่ตามหามาตลอดชีวิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้เอง ต้องขอขอบคุณกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตลอดจนผู้บังคับบัญชาทุกชั้นที่มีความเมตตาให้โอกาสข้าพเจ้าได้พบกับความใฝ่ฝันที่ตามหามาตลอดชีวิต ขอบคุณและขอบคุณอีกครั้งชีวิตมีทางไปต่อเสมอสำหรับคนที่ไม่หยุดค้นหา

เขียนโดย ช.เชื่องช้า

ภาพและวีดีโอ