วันที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า พื้นที่การเกษตรในบางพื้นที่ของประเทศไทย ณ ขณะนี้ ยังคงได้รับปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอต่อความต้องการน้ำของพี่น้องประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ รวมไปถึงแหล่งน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่สำคัญ ยังคงมีปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อย ขณะเดียวกันบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของภาคใต้ พบว่า ได้ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำมาเป็นระยะเวลานานอีกด้วย 
ซึ่งเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เพาะปลูกด้านเกษตรที่มีการขอรับบริการฝนหลวง บริเวณตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายเสริม เพ็ญชาติ ผู้ขอรับบริการฝนหลวง และนายอนันต์ รัศมี เกษตรกรในพื้นที่ ร่วมให้ข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกด้านการเกษตร และความต้องการน้ำฝนในพื้นที่ ซึ่งพบว่า พื้นที่ตำบลสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนใหญ่ ทำการเกษตรปลูกพืชหลัก ได้แก่ มะพร้าว มะม่วง แก้วมังกร สับปะรด และเลี้ยงวัว ซึ่งปัจจุบันได้ประสบปัญหาฝนไม่ตกในพื้นที่มาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงพอมีฝนตกลงมาบ้าง แต่ด้วยลักษณะพื้นที่อยู่นอกเขตชลประทาน และยังมีปริมาณน้ำในการทำการเกษตรค่อนข้างน้อย จึงส่งผลให้พืชที่เพาะปลูกเริ่มขาดแคลนน้ำ ใบของต้นมะพร้าวมีลักษณะเริ่มแห้ง และมีหนอนหัวดำมะพร้าวระบาด แปลงหญ้าเลี้ยงวัวแห้งทำให้ให้วัวไม่มีหญ้ากิน รวมไปถึงมะม่วงที่ปลูกในพื้นที่ซึ่งเป็นพันธ์มะม่วงแก้ว จะเริ่มออกดอกในช่วงนี้ไปจนถึงปลายปี และมีความต้องการน้ำเพื่อช่วยในกระบวนการออกดอก ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่จึงยังคงมีความต้องการขอรับบริการฝนหลวง เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อพืชผลทางการเกษตร และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายก่อนหมดฤดูฝน ทั้งนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและนำข้อมูลมาเร่งวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป 
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับเหล่าทัพ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยปฏิบัติการ ยังคงติดตามเงื่อนไขของสภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน และเดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วภูมิภาคของประเทศ โดยจากผลการปฏิบัติฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 9 หน่วย ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดพะเยา เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ ลพบุรี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา สุราษฎร์ธานี เพิ่มปริมาณน้ำให้พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนรัชชประภา อ่างเก็บน้ำคลองระบม และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ส่วนด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในพื้นภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้ 

  - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร 
เพชรบูรณ์ และจ.นครสวรรค์ 
  - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาฬสินธุ์ อุดรธานี สกลนคร และจ.ขอนแก่น 
  - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และจ.ศรีสะเกษ
   - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 
จ.นครราชสีมา และจ.บุรีรัมย์
  - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สระแก้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 
จ.สระแก้ว และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยยาง จ.สระแก้ว
  สำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่อื่น ๆ จะยังคงติดตามสภาพอากาศต่อเนื่อง หากมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100

#ข่าวฝนหลวง