ปี 2564 ได้ล่วงเลยมาถึงกลางเดือนกันยายนกันแล้ว เหลืออีกแค่ 3 เดือนกว่าเท่านั้นก็จะสิ้นปี โดยส่วนตัวผมว่าปีนี้วันเวลาช่างเดินอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน ผมอาจจะรู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่าไม่ทราบ แล้วคุณผู้อ่านรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่าครับ อาจเป็นเพราะตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาเราก็ประสบกับปัญหาโรคระบาดไวรัสโคโรน่า บางคนอาจนั่งนับเวลา นับวัน นับเดือน เมื่อไหร่โรคภัยจะหมดซะทีนะ จะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ ก่อนที่จะมีโรคระบาดนี้ หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ การปรับตัวให้เข้ากับปัจจุบัน นับว่ามีความสำคัญมากเพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราสามารถเอาตัวรอดและผ่านพ้นปัญหาไปได้ อย่างสุภาษิตไทยที่ว่า “รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง” คำๆนี้หลายคนถ้าหากยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปในทางเจ้าเล่ห์แสนกลได้ โดยความหมายที่แท้จริงนั้นตามพจนานุกรมได้แปลไว้ว่า “รู้จักเอาตัวรอด หรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์” และยิ่งกับสถานการณ์ในทุกวันนี้ทุกคนต่างต้องปรับตัวเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะประสบผลสำเร็จกันทุกคน หรือบางคนอาจจะเจอกับอุปสรรคมากขึ้นก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้มีคนจากหลากหลายอาชีพได้หันมาทำในสิ่งที่ตัวเองนั้นไม่เคยทำ อย่างการทำอาหาร เพาะกล้าไม้ขายทางออนไลน์ หรืออีกหลากหลายอาชีพที่แต่ละคนจะคิดว่าทำอะไรดีเพื่อประคับประคองชีวิตให้อยู่รอด พึ่งพาตนเองได้ แต่กับอาชีพการทำฝนของเรานั้น ที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร รู้ดีว่าตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยได้ประสบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้รับอิทธิพลทางอ้อมของพายุโซนร้อนโกนเซินที่เข้าใกล้ประเทศไทย พี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ต่างได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย 
ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงต้องมีการปรับการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น ในทุกวันเราได้ทำการตรวจสภาพอากาศ และข้อมูลความต้องการน้ำในพื้นที่ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ประชุม วางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนไปเราต้องมีข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ละเอียดมากขึ้น เพื่อแยกพื้นที่ที่ต้องการน้ำและไม่ต้องการน้ำอย่างชัดเจน พวกเราจึงนำฐานข้อมูลจากการที่พี่น้องประชาชนที่ส่งเข้ามาขอรับบริการน้ำฝน ข้อมูลจากความคิดเห็นในช่วงการรายงานผลและแผนปฏิบัติการประจำวัน บนเพจเฟซบุ๊กกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในช่วงเวลา 10.30 น. ของทุกวัน ที่ได้บอกข้อมูลความต้องการของพื้นที่แต่ละแห่งมาประกอบเพื่อให้การทำงานตรงกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีความแตกต่างกัน โดยบางพื้นที่นั้นได้รับน้ำฝนในปริมาณที่เพียงพอแล้ว แต่บางพื้นที่ยังคงต้องการปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง เราจึงมีการวางแผนเพื่อหลบหลีกการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ที่ได้รับน้ำเพียงพอแล้ว เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมปริมาณน้ำฝนเพราะอาจจะทำให้ผลผลิตของพี่น้องประชาชนเกิดความเสียหายได้
ความพยายามทั้งหมดนี้ก็คือความปรารถนาดีของชาวกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ต่างตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากสภาพอากาศในขณะนี้ และเหล่านักล่าเมฆก็พร้อมที่จะติดทั้งปีกและหาง เพื่อปฏิบัติงานสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนให้ตรงตามความต้องการของพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับน้ำฝนอย่างเต็มที่ ก่อนหมดฤดูกาลเพาะปลูกให้จงได้ 

#เรียนรู้และปรับปรุงนำพามาซึ่งความสำเร็จ
เขียนโดย “เมฆเล็กเล็ก”