เผลอแปปเดียว นี่เราก็เข้าสู่เดือนที่ 10 ของปีกันแล้ว เหมือนเพิ่งขอพรปีใหม่ไปเมื่อไม่นาน นี่เราต้องมานั่งเค้าท์ดาวสามเดือนสุดท้ายแล้วสินะ

9 เดือนที่ผ่านมา เราก็ผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมายเหมือนกัน กับการที่ต้องสู้รบปรบมือกับเรื่องงานต่างๆ การแก้ไขปัญหา หรือรวมไปถึงปัญหาที่ต้องเผชิญไม่ทันตั้งตัว แต่หากเรารู้จักการที่จะปรับตัว ก็คงจะใช้ชีวิตได้แบบไม่ลำบาก

  แต่อีกปัญหาหนึ่งของการทำงาน คือการทำงานร่วมกันเป็นทีม  ถ้าไม่เข้าใจกัน หรือไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน ก็คงจะไปไม่รอดแน่ๆ เพราะหากคนนึงมองซ้าย คนนึงมองขวา เราก็จะหาจุดกึ่งกลางไม่เจอ การสร้างทีมงานให้มีศักยภาพเพื่อการทำงานระบบทีมนั้น ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะพาองค์กรขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ซึ่งหัวใจสำคัญของการทำงานเป็นทีม  คือการมีเป้าหมายที่มุ่นมั่นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร

การร่วมแรงร่วมใจถือเป็นแกนหลักของการทำงานแบบ Teamwork  ลองนึงภาพว่า หากรถที่ท่านนั่ง มีผู้โดยสาร 10 คน และรถกำลังติดหล่มดินโคลน ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก แล้วไม่มีใครลงไปช่วยดันรถขึ้นมา เพราะมัวแต่กลัวว่าตัวเองจะเปียก จะเลอะเทอะ แน่นอนว่าต่อให้คนขับเร่งเครื่องแค่ไหน รถก็คงไม่หลุดจากหล่มอยู่ดี  เราก็คงจะติดหล่มอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนซักที แต่หากเราร่วมด้วยช่วยกันในการดันรถคนละแรง ไม่นานรถก็คงจะหลุดออกจากหล่มนั้นได้

หากเรามีระบบการทำงานที่ชัดเจน ก็จะสามารถช่วยทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทุกคนจะต้องรู้หน้าที่ของตนเองว่าใครจะต้องทำอะไร และปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระหน้าที่ของส่วนอื่นๆ
ยอมรับความแตกต่างเปิดใจรับความคิดเห็นใหม่ๆ ร่วมกันแก้ไขปัญหา ไม่ผลักภาระ ไม่ทอดทิ้งกันกลางครัน  ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมคิดร่วมทำ โดยคำนึงถึงภาพรวมขององค์กร การประสานความแตกต่างของบุคคลและการบวนการปฏิบัติงานให้เกิดการทำงานอย่างบูรณาการบนพื้นที่ฐานของความไว้วางใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อจะได้ช่วยกันขับเคลื่อนให้ก้าวต่อไป เพราะการเดินคนเดียวอาจจะเดินไปได้ไวกว่า แต่ถ้าหากเราอยากเดินไปให้ไกล พวกเราต้องเดินไปด้วยกัน 

เขียนโดย "วายุ"