5 ตุลาคม 2564
21,468
ครั้ง
ความรู้สึกประทับใจในความทรงจำที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ซึ่งพอจำความได้ ฉันมักได้ยินคำว่า “ในหลวง” มาโดยตลอด ซึ่งเข้าใจว่าหมายถึงพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย นั่นก็คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งพระองค์ได้เสด็จสวรรคตจากพวกเราชาวไทยทุกคนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559
ฉันได้ติดตามดูทางสื่อต่าง ๆ โดยตลอดมานั้น ฉันก็ได้รับรู้ว่าพระองค์ ทรงงานหนักมาก ท่านทรงตระหนักถึงการพัฒนาการศึกษาของเยาวชนและทรงคิดว่ามันเป็นพื้นฐานอันสำคัญของประเทศชาติ และนอกเหนือจากนี้ ยังทรงก่อตั้งกองทุนต่าง ๆ เพื่อช่วยให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ทั้งยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นทุนริเริ่มในการก่อสร้างโรงเรียนตามวัดในชนบท หรือแม้กระทั่งเผื่อแผ่ไปชนเผ่าภูเขาต่าง ๆ ให้ได้มีสถานที่สำหรับศึกษาเล่าเรียน เพื่อที่จะได้เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ทุกครั้งเมื่อพระองค์เสด็จไปเยือนจังหวัดต่าง ๆ พระองค์เสด็จไปทุกที่แม้ว่าจะเป็นถิ่นทุรกันดารเพียงใด พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อน ซึ่งการเสด็จในแต่ละครั้งที่ไปทรงเยี่ยมราษฎรตามท้องที่ต่างๆ ทุกครั้ง จะทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีคณะแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากโรงพยาบาลต่างๆ พร้อมด้วยเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ครบครัน เพื่อพร้อมที่จะให้การรักษาพยาบาลราษฎรได้ทันที นอกจากนั้นพระองค์ท่านยังคงมีโครงการดี ๆ อีกหลายๆ โครงการเพื่อพัฒนาประเทศชาติ และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น
แต่สิ่งที่ฉันประทับใจก็คือ ไม่ว่าการเดินทางจะยากลำบากสักเพียงใด พระองค์ท่านไม่เคยแสดงความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า และท้อถอย ออกมาให้ราษฎรเห็นเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่ฉันเห็นภาพพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมราษฎรพระองค์จะนำแผนที่พร้อมปากกาติดตัวตลอดเวลาที่เสด็จเยี่ยมราษฎร นี่แหละที่ฉันเข้าใจแล้วว่าใครๆ ในโลกรักในหลวงของพวกเรา เพราะว่าพระองค์ท่านรักราษฎรเท่าเทียมกันและเห็นแก่ประโยชน์สุขของราษฎรทุกคน
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่านานาประเทศในโลกก็รู้จักพระองค์ท่านและรักเทิดทูนท่านมาก โดยเฉพาะประเทศภูฏาน จะเห็นว่าพระมหากษัตริย์ของประเทศภูฎาน (สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก) ท่านรักและเคารพในหลวงของพวกเราประดุจพระบิดาก็ว่าได้ โดยท่านได้นำแนวทางพระราชกรณียกิจของในหลวงมาเป็นต้นแบบ และเป็นแบบอย่างเพื่อมาพัฒนาประเทศภูฏาน โดยท่านได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาแนวทางพระราชดำริ การพัฒนาบนยอดดอยอินทนนท์และยอดดอยอ่างขาง ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำกลับไปปรับใช้บนพื้นที่ภูเขาสูง และทำการเกษตรของชาวภูฏาน
แม้แต่ประเทศอื่นยังรักและเทิดทูนในหลวงมากมายมหาศาล แต่ความรักและเทิดทูนในหลวงของพวกเราชาวไทยทุกคนมากมายมหาศาลจนไม่สามารถบรรยายได้หมด ฉันภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยและได้เกิดใต้เบื้องยุคลบาทในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ได้พบเห็นพระมหาษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในใจของเหล่าชาวไทย ผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและน้ำพระทัยอันกว้างใหญ่ไพศาล แผ่ไปทั่วทุกอนูของแผ่นดิน
เขียนโดย “ไออุ่น”