เปลี่ยนการแสดงผล
กรมฝนหลวงฯ ร่วมกับกองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี ๒๕๖๕
22 กุมภาพันธ์ 2565 629 ครั้ง

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.15 น. นายสำเริง  แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นประธานเปิดปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ ภายใต้ความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ประจำปี 2565 โดยเป็นการปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บในช่วงฤดูร้อนหรือช่วงที่กำลังเปลี่ยนฤดูกาล ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมและเขตชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 

นายสำเริง แสงภู่วงค์ กล่าวว่า ในปี 2565 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เปิดหน่วยปฏิบัติการจำนวน 2 หน่วย เพื่อรองรับภารกิจการยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของพายลูกเห็บ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการ จ.เชียงใหม่ ใช้อากาศยานเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 หรืออัลฟ่าเจ็ท จำนวน 1 ลำ รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ และหน่วยปฏิบัติการ จ.พิษณุโลก ใช้อากาศยาน Super King Air 350 ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 2 ลำ รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศในการสนับสนุนอากาศยานและบุคลากรในการดำเนินงานร่วมกันปฏิบัติการฝนหลวงยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ โดยปฏิบัติการฝนหลวงด้วยวิธีโจมตีด้วยพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ ซึ่งเป็นวิธีที่นำสารฝนหลวงซิลเวอร์ไอโอไดด์เร่งกระบวนการทางธรรมชาติ ทำให้ผลึกน้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นเม็ดน้ำละลายตกลงมาเป็นน้ำฝน ซึ่งจะช่วยบรรเทาความรุนแรงและความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนอันเกิดจากพายุลูกเห็บลงได้ 

นอกจากนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการเพื่อปฏิบัติภารกิจยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บ จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยฯ จ.เชียงใหม่ และ หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ปฏิบัติการระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2564 รวม 31 วัน 38 เที่ยวบิน ใช้พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ทั้งสิ้น 810 นัด ผลจากการปฏิบัติการพบว่า ไม่มีรายงานการเกิดลูกเห็บตกในบริเวณที่ปฏิบัติการ อย่างไรก็ตามอาจยังคงมีข่าวการเกิดลูกเห็บตกอยู่บ้างนอกเหนือจากพื้นที่ปฏิบัติการ เนื่องจากข้อจำกัดและจำนวนอากาศยานที่มีและการเลือกพิจารณาพื้นที่เป้าหมายสำหรับปฏิบัติการ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ชุมชน ที่อยู่อาศัย และพื้นที่การเกษตรก่อน เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องของนิรภัยการบิน เช่น ไม่สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่แนวชายแดนได้ เนื่องจากเป็นอากาศยานความเร็วสูง ทั้งนี้ ได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่การเกษตรมาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 4 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ และ จ.ขอนแก่น และจะมีการเปิดปฏิบัติการฝนหลวงอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มีนาคม 2565 ณ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมตั้งหน่วยปฏิบัติการ จำนวน 10 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จ.ตาก จ.แพร่ และ จ.พิษณุโลก หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จ.นครสวรรค์ และ จ.กาญจนบุรี หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุดรธานี และ จ.บุรีรัมย์ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก จ.จันทบุรี และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชนสามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ หรือช่องทาง เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, Instagram, Line Official Account, Twitter, Tiktok : @drraa_pr และช่อง YouTube : ใต้ปีกฝนหลวง

ภาพและวีดีโอ