เปลี่ยนการแสดงผล
องคมนตรี ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ครั้งที่ 3/2565 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานฝนหลวง
27 กันยายน 2565 259 ครั้ง
องคมนตรี ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ครั้งที่ 3/2565 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานฝนหลวง
วันที่ 26 กันยายน 2565 เวลา 09.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง พร้อมด้วยนายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี รองประธานฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ครั้งที่ 3/2565 เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาแก้ไขปัญหาภัยแล้งและเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บประจำปี 2565 ความก้าวหน้าการจัดหาอากาศยานฝนหลวง ความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก การก่อสร้างศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามตำราฝนหลวงพระราชทาน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และการดำเนินการปรับปรุงสนามบินท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
 
นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีการจัดหาอากาศยานฝนหลวงทดแทนอากาศยานที่มีอายุการใช้งานนานเกินกว่า 25 ปี ขึ้นไป เพื่อสนับสนุนภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวง ให้สามารถช่วยเหลือและบรรเทาพื้นที่ประสบภัยแล้งได้ทันท่วงทีและครอบคลุมพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยกรมฝนหลวงมีแผนจัดหาอากาศยานตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2570 จำนวน 9 ลำ เป็นเครื่องบินขนาดกลางจำนวน 6 ลำ ขนาดเล็กจำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ ด้านการจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามตำราฝนหลวงพระราชทาน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน และพิพิธภัณฑ์พระบิดาแห่งฝนหลวง ได้มีการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ บริเวณจุดก่อสร้างศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก มีกำหนดส่งมอบงานงวดสุดท้ายภายในเดือนกันยายน 2565 พร้อมให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาภัยแล้งภัยพิบัติ และเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ในขณะเดียวกัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีการพัฒนาหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในภาคกลางให้มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการประสานการขอใช้พื้นที่ของกองทัพบกและกองทัพอากาศเพื่อก่อสร้างและปรับปรุงหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี และกาญจนบุรี
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงสนามบินท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ที่ดำเนินการโดยกองทัพอากาศโดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สำนักงาน กปร. ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ในระยะที่ 2 ประกอบด้วย การปูยาง A/C Hot Mixed ไหล่ทางวิ่ง การปูยาง A/C Hot Mixed ผิวทางขับ งานลานคอนกรีต ทาสีตีเส้นจราจร งานระบบไฟฟ้าสนามบิน และระบบไฟฟ้าภายใน โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พร้อมใช้งานในการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จังหวัดจันทบุรี ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ช่วงต้นปี 2566 ต่อไป
นายสำเริง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีการติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำและสภาวะฝนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยมีสภาวะฝนตกชุกต่อเนื่องมาเป็นระยะ โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากจนส่งผลกระทบทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยยังคงคาดการณ์ให้ประเทศไทยมีสภาวะฝนตกชุกต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูฝน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้ทำการปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สำหรับแผนการทำงานในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีการเตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงที่มีสภาพอากาศเหมาะสมในการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรที่ยังคงประสบภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในการป้องกันไฟป่า และบรรเทาปัญหาหมอกควัน สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เกินเกณฑ์มาตรฐานซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั่วไป โดยการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ ณ สนามบินนครสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปฏิบัติการฝนหลวงนั้นต้องอาศัยสภาพอากาศที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา และขอให้เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติการฝนหลวงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร อันเป็นการดำเนินงานตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรต่อไป
ภาพและวีดีโอ