เปลี่ยนการแสดงผล
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ขยายเวลาความร่วมมือทางวิชาการ
22 พฤศจิกายน 2562 595 ครั้ง

                 กรมฝนหลวงฯ MOU สสน. ต่อเนื่อง เพื่อบูรณาการระบบติดตามและประเมินสภาพภูมิอากาศสำหรับการบริหารจัดการน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำฝนหลวงและแก้ไขปัญหาภัยแล้งของประเทศ

                กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ขยายเวลาความร่วมมือทางวิชาการ จาก 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2563 เป็นขยายความร่วมมืออีก 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 – 2568 เพื่อร่วมบูรณาการระบบติดตาม และประเมินสภาพภูมิอากาศสำหรับการบริหารจัดการน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำฝนหลวงและแก้ไขปัญหาภัยแล้งของประเทศอย่างต่อเนื่อง

                วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และนายสุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบติดตามและประเมินสภาพภูมิอากาศสำหรับการบริหารจัดการน้ำ (ครั้งที่ 1) ระหว่างกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) โดยนายสุรสีห์ เปิดเผยว่า ด้วยยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 20 ปี กำหนดให้มีการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยทรัพยากรน้ำถือเป็นปัจจัยพื้นฐานอันสำคัญต่อการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการจัดทำแผนแม่บทการดัดแปรสภาพอากาศ ระยะ 20 ปี ที่ครอบคลุมการปฏิบัติงานทุกด้านและทุกระดับให้สอดรับสนับสนุนซึ่งกันและกัน อาทิ ด้านการปฏิบัติการฝนหลวง งานวิจัย และการบิน อีกทั้งต้องเพิ่มศักยภาพในการทำงานทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี อุปกรณ์ และเครื่องมือที่สำคัญในการปฏิบัติงาน รวมถึงการพัฒนาทางด้านวิชาการ และแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกจากทุกภาคส่วนที่มีบทบาทและภารกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของประเทศ

นายสุรสีห์ กล่าวต่ออีกว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติม กับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ในครั้งนี้เป็นการขยายเวลาความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานจากเดิมที่มีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2563 ขยายความร่วมมืออีก 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 – 2568 โดยมีวัตถุประสงค์ของความร่วมมือ ดังนี้ 1. ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลสภาพอากาศระหว่างกัน โดยที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลปริมาณน้ำฝน ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศฝนหลวง และข้อมูลตรวจอากาศชั้นบน เป็นต้น ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้นำเอาข้อมูลมาใช้สนับสนุนการตัดสินใจในการวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวัน ได้เป็นอย่างดี 2. ร่วมกันวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบติดตาม และประเมินสภาพภูมิอากาศ สำหรับการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีโครงการความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลง 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพแบบจำลองคาดการณ์สภาพอากาศระยะสั้น โดยใช้ข้อมูลตรวจอากาศชั้นบน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวง และ 2) โครงการพัฒนาระบบประเมินน้ำฝนและพยากรณ์ล่วงหน้า โดยใช้ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ : พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ผลจากการดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าว กรมฝนหลวงฯ ได้นำผลที่ได้มาใช้ประโยชน์ทั้งด้านการวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวง การติดตามสภาพอากาศ และการประเมินปริมาณน้ำฝนจากเรดาร์ สนับสนุนการประเมินผลการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวัน และ 3. ร่วมพัฒนาบุคลากร และนำเทคโนโลยีตลอดจนความเชี่ยวชาญของทั้งสองหน่วยงานมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยที่ผ่านมาได้มีการอบรมสัมมนา 3 ครั้ง คือ 1) อบรมเชิงปฏิบัติการแบบจำลอง “Weather Research and Forecasting (WRF)” ในวันที่ 4 – 6 กรกฎาคม 2561 ณ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) 2) สัมมนาเชิงวิชาการ “วิจัยสู่การปฏิบัติ (Research to Operation)” ครั้งที่ 5 หัวข้อ “Dynamic Modeling and Data Science in BIG DATA Era” ในวันที่ 27 – 28 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวัดเชียงใหม่ และ 3) สัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Aerosol Modeling Workshop”
ในวันที่ 18 – 22 กุมภาพันธ์ 2562 ณ อุทยานดาราศาสตร์สิริธร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการเสริมทักษะและองค์ความรู้ด้านการดัดแปรสภาพอากาศ และการพัฒนางานวิจัยของบุคลากรของทั้งสองหน่วยงาน

                 นายสุรสีห์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) จะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ในการพัฒนาสู่ความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของเกษตรกรและประชาชนทั่วไป และได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานสืบไป

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

ภาพและวีดีโอ