ฝนหลวงฯ สนองพระราชปณิธานรัชกาลที่ 10 พัฒนาเครือข่ายจิตอาสาช่วยพระบิดาปฏิบัติการฝนหลวง สืบสานศาสตร์พระราชาฝนหลวงของรัชกาลที่ 9

วันนี้ (14 ธ.ค.63) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ จิตอาสาช่วยพระบิดาปฏิบัติการฝนหลวง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี รวมกว่า 100 คน ณ โรงแรมเทพนคร อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมสนับสนุนและสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ให้เกิดการเรียนรู้ มีความเข้าใจ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน และสร้างความเข้าใจในภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวง การขอรับบริการฝนหลวง และองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และอาสาสมัครฝนหลวงจะสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปถ่ายทอดและเผยแพร่ให้กับเกษตรกรและประชาชนในชุมชนของตนได้รับรู้ รับทราบอย่างถูกต้อง โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือการอยู่ดีมีสุข

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในการอบรมดังกล่าว กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีการดำเนินการ 7 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี โดยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2563 เพื่อขยายเครือข่ายอาสาสมัครฝนหลวงให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ที่รับผิดชอบของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 10 จังหวัด ในการช่วยให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดประสิทธิภาพ และตรงกับสถานการณ์ความต้องการน้ำเพื่อการเกษตรกรรมมากขึ้น ทั้งนี้ เครือข่ายอาสาสมัครฝนหลวงจะได้รับความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ ด้านอุตุนิยมวิทยา การอนุรักษ์ดินและน้ำ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสาร การข่าวประชาชน และหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งองค์ความรู้ดังกล่าว จะทำให้อาสาสมัครฝนหลวงมีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติการฝนหลวง การให้บริการฝนหลวงในพื้นที่รับผิดชอบ และสามารถให้ความรู้แก่ชุมชนได้อย่างถูกต้อง เป็นการส่งเสริมกระบวนการ มีส่วนร่วมของประชาชนกับการให้บริการจากหน่วยงานภาครัฐ ที่จะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานที่รับสนองพระราชดำริโครงการฝนหลวง ปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 จนถึงปัจจุบัน โดยในการปฏิบัติการฝนหลวงที่ผ่านมา นั้น ยังมีบางพื้นที่ที่ได้รับฝนหลวงไม่ทั่วถึง เนื่องจากความยากในการเข้าถึงทุกพื้นที่ในเวลาเดียวกัน ทำให้ไม่ทราบข้อมูลของพื้นที่ บางบริเวณที่มีความต้องการน้ำ ส่งผลให้เกษตรกรและประชาชนยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและการทำเกษตรกรรมเป็นจำนวนมาก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวและให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและประชาชน ประกอบกับในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริการของรัฐ ส่งผลให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงานราชการดีขึ้นอย่างมากและตรงกับความต้องการของประชาชน กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงได้มีการจัดตั้งอาสาสมัครฝนหลวงขึ้นเพื่อช่วยเหลืองานด้านการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยอาสาสมัครฝนหลวง จะมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนการกำหนดแผนงาน ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติการฝนหลวง ประสานงานกับเกษตรกร ส่วนราชการ รวมทั้งช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ของตนเอง