เปลี่ยนการแสดงผล
วันคล้ายวันสถานปนากรมฝนหลวงและการบินเกษตร ครบรอบปีที่ 8
27 มกราคม 2564 845 ครั้ง
ฝนหลวงฯ ครบรอบ 8 ปี มุ่งมั่นสานต่อทำฝน ช่วยประชาชนฝ่าวิกฤตภัยแล้ง
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ครบรอบปีที่ 8 แห่งการได้รับสถาปนายกระดับเป็นกรม เดินหน้ามุ่งมั่นทำฝนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และพัฒนาเพื่อเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลกด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามศาสตร์ฝนหลวงพระราชทานภายในปี 2580
วันที่ 25 มกราคม 2564 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และพิธีสงฆ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถานปนากรมฝนหลวงและการบินเกษตร ครบรอบปีที่ 8 และจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual MOU Signing Ceremony) กับ ๙ หน่วยงาน โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ด้านการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับ ๓ หน่วยงาน คือ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และสร้างการรับรู้ กับ ๔ หน่วยงาน คือ กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมประชาสัมพันธ์ และด้านบริหารจัดการด้านการบิน กับ 2 หน่วยงาน คือ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสถาบันการบินพลเรือน ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ภัยพิบัติ บริหารจัดการน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างบูรณาการ
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เป็นหน่วยงานสนองงานโครงการพระราชดำริฝนหลวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยตรง ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 ปี รวมถึงเมื่อครั้งเป็นสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรที่ผ่านมา กรมฯ ได้ดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการบรรเทาปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ออกหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 ตุลาคม ของทุกปีแบบไม่มีวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ และในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ - 31 ตุลาคม 2563 เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนและการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกรมฯ ด้วยดี อาทิ ด้านอากาศยานและเจ้าหน้าที่จากกองทัพบกและกองทัพอากาศ ได้รับการสนับสนุนน้ำแข็งแห้งจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ในด้านความก้าวหน้าการดำเนินงานต่างๆ ของกรมฝนหลวงฯ ด้านอัตรากำลัง 
ได้รับการพิจารณาอนุมัติเพิ่มขึ้นจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งจะทำให้บุคลากรเกิดความสมดุลในการดำเนินชีวิตกับการทำงาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น ด้านการพัฒนางานวิจัยเพื่อเสริมศักยภาพการปฏิบัติการฝนหลวง ดำเนินการเรื่องจรวดฝนหลวงเพื่อใช้ในการยับยั้งลูกเห็บ การนำอากาศยานไร้คนขับ (unmanned aerial vehicle : UAV) มาประยุกต์ใช้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเมฆอุ่น การศึกษาวิจัยสารฝนหลวงทดแทนซิลเวอร์ไอโอไดด์ด้วยนาโนเทคโนโลยี และการวิจัยสารฝนหลวงทางเลือกที่ใช้ในช่วงสภาพอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์น้อยกว่า 60% รวมทั้งการประดิษฐ์เครื่องโปรยสารฝนหลวงกึ่งอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน โดยงานวิจัยต่างๆ ดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกรมฝนหลวงฯ ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ มีแผนจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามศาสตร์ฝนหลวงพระราชทาน ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2565 รวมทั้งจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ฝนหลวงรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งคาดว่าในอนาคตอาจจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.เพชรบุรี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้โครงการพระราชดำริฝนหลวง และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกด้วย
สำหรับด้านความร่วมมือกับต่างประเทศ กรมฝนหลวงฯ มีแผนทำบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ
ด้านการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เทคโนโลยี และพัฒนาบุคลากร รวมทั้งร่วมกันวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดัดแปรสภาพอากาศกับประเทศจีนและอินโดนีเซีย ส่วนประเทศมองโกเลีย ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ อยู่ระหว่างการประสานงาน ขณะเดียวกันประเทศไทย จะเป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายงานวิชาการด้านการดัดแปรสภาพอากาศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization : WMO) โดยประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนต่างเห็นตรงกันว่าประเทศไทยเหมาะสม เพราะมีศักยภาพสูงสุด ถือได้ว่า เรากำลังมีความเติบโตก้าวไปสู่ระดับอาเซียน และในอนาคตจะก้าวสู่ชั้นนำในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม สำหรับในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 และการดำเนินงานในปี 2564 นี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเตรียมพร้อมอากาศยาน นักบิน นักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ และจะเริ่มเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2564 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จะถึงนี้ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาทั่วทุกภูมิภาค เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการพระราชดำริฝนหลวง ในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป นายสุรสีห์ กล่าวทิ้งท้าย

8th anniversary of Department of Royal Rainmaking and Agricultural Aviation, continue the royal intention to mitigate drought
The Department of Royal Rainmaking and Agricultural Aviation (DRRAA) celebrated the 8th anniversary of the establishment.  It is focusing on rainmaking to lessen distress of Thai people and turning to be the world’s leading organization of weather modification in accordance with Royal Rainmaking Technology developed by His Majesty King Bhumibol Adulyadej The Great by 2037.
On 25 January 2021, Dr. Surasri Kidtimonton, DRRAA Director-General was joined by the executives and officers to pay homage to the Lord Buddha statue and sacred things, and conduct almsgiving ceremony on the occasion of the 8th anniversary of the DRRAA establishment.  In addition, the virtual MOU signing ceremony was organized between DRRAA and 9 agencies focusing on 3 aspects. Firstly, the MOU on science and technology research and development is integrated with the National Science and Technology Development Agency; Thailand Institute of Scientific and Technological Research; and Faculty of Engineering at Kamphaeng Saen, Kasetsart University. Secondly, the MOU on water resources management and awareness building is integrated with the Royal Irrigation Department; Department of National Park, Wildlife, and Plant Conservation; Thai Meteorological Department; and Public Relations Department.  Thirdly, the MOU on aviation management is integrated with the Permanent Secretary of the Ministry of Natural Resources and Environment, and Civil Aviation Training Center.  The cooperation aims at drought and natural disasters mitigation, water resources management, and Royal Rainmaking efficiency enhancement.    
Dr. Surasri Kidtimonton stated that DRRAA is the agency with the mission directly responding to the Royal Rainmaking Project initiated by His Majesty King Bhumibol Adulyadej The Great, King Rama IX.  Throughout 8 years and when it was the Bureau of Royal Rainmaking and Agricultural Aviation, DRRAA has continuously operated Royal Rainmaking to mitigate drought during 1 March – 31 October annually every day.  In 2020, the operation was conducted during 17 February – 31 October because of severe drought.  DRRAA has had a support of aircraft and personnel from the Royal Thai Air Force and the Royal Thai Army, and dry ice from PTT Public Company Limited.
The Office of the Civil Service Commission approved to increase manpower of DRRAA to balance the work load. Research integrated with other expert agencies is continuously carried on to enhance rainmaking, such as rocket application to suppress hails,unmanned aerial vehicle (UAV) application for seeding warm cloud, alternative substance to seed clouds when the relative humidity is less than 60%, Nano- seeding substance, semi-automatic substance dispersers, etc. Moreover, DRRAA plans to establish the Center of Weather Modification Technology Transfer in accordance with Royal Rainmaking Technology developed by King Rama IX at Cha-um district, Phetchaburi province.  The construction will be started in 2022.  The Museum of Royal Rainmaking with interactive technology will be established also expected to be a new landmark of Phetchaburi to visit and learn about the Royal Rainmaking Project and the intelligence of King Rama IX.    
For international cooperation, DRRAA is going to sign MOU on weather modification with China and Indonesia to exchange experiences and technology, and build capacity of personnel, as well as jointly research.  DRRAA also discusses on collaborating activities with Mongolia, Sri Lanka and Philippines. DRRAA cooperates with national and international agencies for weather modification enhancement in order to be the center of ASEAN weather modification research network and will be the world’s leading organization in the future.      
Dr. Surasri Kidtimonton added that to step forward to the 9th year, DRRAA are ready to perform the mission with utmost effort. Aircraft, pilots, scientists, staffs, and instruments are well-prepared for the 2021 annual Royal Rainmaking which will be started on 1 February 2021 to help people suffering from drought throughout the nation and also carry on the wise royal intention of His Majesty King Rama IX and the royal wish of His Majesty King Rama X to continue, preserve and build up the royal intention for the well-being of all Thais.  


*************************
Department of Royal Rainmaking and Agricultural Aviation
25 January 2021

ภาพและวีดีโอ