เปลี่ยนการแสดงผล
ฝนหลวงฯ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและแหล่งเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อย
17 มิถุนายน 2564 226 ครั้ง
ฝนหลวงฯ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและแหล่งเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อย

วันที่ 17 มิถุนายน  2564 เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก ปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่การเกษตรต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงประสบกับปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นอย่างมาก และเนื่องด้วยปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ที่จะลงมาช่วยเหลือปริมาณน้ำในพื้นที่เขตลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น มีปริมาณน้ำต้นทุนค่อนข้างน้อย ในขณะเดียวกัน  พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็มีความห่วงใยต่อพี่น้อง

ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เหล่าทัพ และหน่วยงานราชการต่าง ๆ มีความพยายามที่จะร่วมด้วยช่วยกันในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ด้านข้อมูลแผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยา ณ เวลา 07.00 น. พบว่า ในวันนี้ไม่มีหย่อมความกดอากาศต่ำหรือร่องความกดอากาศต่ำ ปรากฏบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบนแล้ว ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ก็มีกำลังอ่อนลงอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณฝนในประเทศไทยค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีโอกาสที่จะได้รับปริมาณฝนน้อยลงเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังอ่อนลง ทำให้ในเรื่องของการพัดพานำความชื้นไปยังพื้นที่แถบดังกล่าวของประเทศค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยากในระดับหนึ่ง
สำหรับผล
จากการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.เชียงใหม่ ตาก พิจิตร พิษณุโลก บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว  เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่มอก และอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย

                      นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการ ฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มีบริเวณพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้

  - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุบลราชธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี และจ. อำนาจเจริญ
 - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ มหาสารคาม และจ.ร้อยเอ็ด
        - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ. สงขลา มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 
จ.พัทลุง
        - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.กาญจนบุรี  มีเป้าหมายช่วยเหลือ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
        - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สระแก้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือ พื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำ จ.ฉะเชิงเทรา
        - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก มีเป้าหมายช่วยเหลือ พื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์
        - หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี มีเป้าหมายช่วยเหลือ พื้นที่การเกษตร จ.สระบุรี จ.ลพบุรี
 อย่างไรก็ตาม อีก 6 หน่วยปฏิบัติการ จะยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศ

มีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที โดยมี 1 หน่วยปฏิบัติการ ที่ไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ คือ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา เนื่องจากนักบินงดปฎิบัติหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังสังเกตุอาการไม่พึงประสงค์ 48 ชม. ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook 
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
ภาพและวีดีโอ